หลวงปู่เงิน
ตำนานอภินิหารแห่งวัดบางคลาน
ศิษย์เอกสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี และพระอาจารย์ของเสด็จในกรมหลวงชุมพร ท่านคือ หลวงปู่เงิน พุทธโชติ แห่งวัดบางคลาน ภิกษุผู้มีชื่อเสียงร่ำลือถึงความเป็นเอกทางด้านวิทยาอาคม เมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ตั้งแต่ชาวบ้าน ทหาร ไปจนถึงระดับเจ้านาย
หลวงพ่อเงิน อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร เกิดวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2353 ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เดิมท่านชื่อเงิน เมื่อสมัยก่อนยังไม่ได้ใช้นามสกุล เป็นชาวบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
เมื่อท่านอายุได้ 3 ขวบ ผู้เป็นลุงได้พามาอยู่ที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตขึ้น ลุงได้นำไปฝากไว้ที่วัดตองปุ (ปัจจุบันคือ วัดชนะสงคราม) เพื่อศึกษาเล่าเรียน จนเมื่อท่านอายุ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดชนะสงครามนั่นเอง เมื่ออายุครบ 20 ปี ก็ได้อุปสมบท ณ วัดชนะสงคราม มีฉายาว่า “พุทธโชติ” ศึกษาพระธรรมวินัย วิปัสสนากรรมฐาน คำภีร์มูลกัจจายน์ เวทมนตร์คาถาและวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน อยู่ 3 พรรษา
ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามนี่เอง ท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ ในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรีจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ฝึกฌานขั้นสูงจนสำเร็จ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของสมเด็จโต
จากนั้นท่านได้กลับไปจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) บ้านบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร บ้านเดิมของท่านอยู่ได้ 1 พรรษา แต่พระที่วัดชอบเทศน์แหล่ หรือมีการซ้อมแหล่อยู่เนืองๆ ทำให้เกิดเสียงดังมาก แต่ท่านชอบความสงบ เพราะท่านเป็นพระที่เคร่งครัดทางธรรมวินัยและทางวิปัสสนากรรมฐาน จึงมาย้ายไปอยู่ที่วัดวังตะโก (หรือหิรัญญาราม) ซึ่งอยู่ห่างจากวัดคงคารามคนละฝั่งเท่านั้น และได้พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง
นอกเหนือจากการเป็นภิกษุแล้ว ท่านยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้าน ด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณ ใช้ยาสมุนไพรหรือบางครั้งก็ใช้น้ำมนต์ เพื่อยังผลด้านกำลังใจให้กับผู้ป่วย ปัจจุบันยังมีตำรายาและสมุดข่อยของท่านซึ่งเก็บรักษาไว้อย่างดี ที่วัดบางคลาน กลายเป็นภูมิปัญญา เป็นมรดกของคนไทยที่สืบทอดกันจนมาถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ ยังเป็นที่เล่าขานกันว่า หลวงพ่อเงินสามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน หลวงพ่อเงินก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุนไม่ยอมออกจากลำกล้อง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชื่อเสียงเรื่องฌาณบารมีอันแก่กล้าของหลวงปู่ร่ำลือไปไกล จนเสด็จในกรม “กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์” ถึงกับเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์
เมื่อครั้งเสด็จในกรมฯ จะเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่เงินได้พูดเปรยขึ้นกับพระหลายรูปว่า “อีกสองวันจะมีคนดี เขามาหาฉัน เห็นทีจะอยู่ไม่ได้แน่ ต้องออกป่าสักพัก” แล้วท่านก็ออกป่าในเย็นวันนั้น ด้วยเพราะท่านไม่ชอบการเข้าหาเจ้านาย เมื่อเสด็จในกรมฯ ทราบ ก็ทรงแปลกพระทัยมาก แต่ก็ตัดสินพระทัยคอยอยู่สองคืน แล้วจึงกลับไปยังนครสวรรค์ เพราะครั้นจะคอยอยู่ก็ไม่ทราบว่านานเท่าใดหลวงพ่อจึงจะออกจากป่า แต่ด้วยความเพียรพยายามของเสด็จในกรมฯ หลวงพ่อเงินจึงยอมรับการฝากตัวเป็นศิษย์ในที่สุด
หลวงพ่อเงินได้มรณภาพ เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแม ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2462 สิริอายุได้ 111 ปี พรรษา 90 การมรณภาพของหลวงพ่อเงิน นับเป็นการสูญเสียพระคณาจารย์ที่ยิ่งใหญ่และพระเถระที่เป็นกำลังสำคัญของพระศาสนา เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และยังความโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง ให้แก่ของชาวพิจิตรและศิษยานุศิษย์ตลอดจนสาธุชนคนทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวท่าน